อ่านจบไปอีกเล่มก่อนสิ้นปี หนังสือเล่มนี้ที่ชี้ให้เห็นว่า “ความจริงแล้ว ผมเป็นคนที่ EQ ต่ำเพียงใด”
คน EQ ต่ำ จะตกเป็นทาสของอารมณ์
เป็นหนังสือที่ทีแรกหยิบมาเล่นๆ เพราะจะเอาส่วนลดตั้งแต่ต้นปี หยิบมาเพราะเห็นหน้าปกและสารบัญดูดุดันดี ก็เลยอยากจะรู้ว่า ข้างในหนังสือแรงๆ อย่างนี้เขาเขียนอะไรกัน จนเพิ่งได้มาหยิบอ่านเมื่อต้นเดือน หัวใจก็โดนทิ่มแทงไปหลายแผล เนื้อหาข้างใน ตรงกับหน้าปกอยู่สัก 20% ได้ อีก 80% เป็นเนื้อหาที่อธิบายถึงการเข้าสังคม
การเข้าสังคมยังไง?
- คนเก่งอย่างเดียวไม่พอ ควรต้องมีสังคมด้วย
- การจัดการกับอารมณ์ตัวเอง การสังเกตอารมณ์ของผู้อื่น
- การรับฟังผู้อื่น ต้องทำอย่างไร มีกับดักอะไรบ้างที่คนมักพลาด
- การถ่ายทอดความคิด ทำอย่างไรให้มีน้ำหนัก
- วิธีการรัก การปลอบใจ การขอโทษ ที่จริงใจและมีประสิทธิภาพ
- เรื่องที่ควรจะเลิกทำถ้าอยากจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
- ลักษณะของสังคมที่ไร้ประสิทธิภาพ
- เรื่องที่ไม่ต้องทำก็ได้ในการรักษาความสัมพันธ์
- จุดประสงค์ที่แท้จริงของการที่เรายังรักษาความสัมพันธ์คบหากันอยู่
ทั้งยกตัวอย่างปัญหาที่เราก็เห็นๆ กันอยู่ทุกวัน อธิบายชี้แจงว่าปัญหามันเกิดขึ้นจากอะไร แล้วแนวทางที่มันควรจะเกิดขึ้นจริงแล้วควรเป็นยังไง
อาจมองเห็นว่าเรื่องพวกนี้อาจเป็นพื้นฐานของมนุษย์อยู่แล้ว แต่สำหรับผมที่ไม่ชอบเข้าสังคมเป็นทุนเดิม นี่คือการเปิดโลกใหม่ คือสังคมเรามันไม่ใช่การพูดจาตรงไปตรงมาแล้วมาบอกจริงใจ การพูดจาที่ตรงแต่ทำร้ายกัน นั่นคือขาดทักษะการสื่อสาร ถ้าอีกคนเจ็บจากคำพูด แล้วเขาจะไม่รับความคิดที่สื่อสารออกไป แล้วสุดท้ายสิ่งที่พูดออกไปก็แค่การรับปากลมๆ แล้งๆ เสียความรู้สึก สารไปไม่ถึงใจของอีกฝ่าย การเปลี่ยนแปลงก็ไม่เกิด
ในทางกลับกัน การสื่อสารที่ดี แต่สัมผัสได้ถึงหัวใจอีกฝ่าย เทียบกับการเสแสร้ง นั่นก็เป็นคนละเรื่องกัน การเสแสร้ง คือการเอาอกเอาใจโดยไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง แต่การสื่อสารที่ดี คือการยืนอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง แล้วถ่ายทอดความคิดไปให้ถึงอีกฝ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของจิตใจมนุษย์เสียก่อน จำเป็นต้องเอา Ego เอานิสัยแย่ๆ ที่ติดมากับสัญชาติฐานเราออกไป นี่เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ต้องฝึกฝน แต่ละคนเกิดมาในครอบครัวที่แตกต่างกัน แต่ละคนจึงมีพื้นฐาน มีความสามารถทางด้านนี้แตกต่างกัน
อ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กน้อย แล้วถูกสอนว่า มนุษย์เนี่ย มันเป็นแบบนี้กันนะ มันมีความรู้สึกนะ แต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ต้องจัดการต่างกันไปตามสถาการณ์ เวลาพูด เวลาฟัง เวลาสื่อสาร มันจะเป็นแบบนี้นะ สังเกตอารมณ์ให้ดี จะมองไปให้เห็นจุดประสงค์ที่แท้จริง จะมองไปให้เห็นถึงความจริงใจจากข้างใน ลักษณะจะเป็นอย่างไร อยากจะเป็นเพื่อน อยากจะเก็บความสัมพันธ์ที่ดี ต้องทำยังไง ต้องพูดจา รับฟัง สื่อสารอย่างไร แล้วถ้าเจอคนที่เป็นตรงกันข้าม ลักษณะจะเป็นยังไง แล้วควรจะทำยังไงต่อ จะปลีกตัวต้องทำอย่างไร
สรุปก็คือ นี่เป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มหนึ่งสำหรับคนมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น เชื่อผมอย่างเถอะว่า ถ้าคุณมีชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้อื่น แล้วคนรอบตัวบอกว่า สิ่งที่คุณพูดที่สื่อสารออกมามันก็มีพื้นฐานที่ถูกต้องนะ แต่คำพูดของคุณน่ะ มันทำร้ายผู้อื่นนะ นี่ไม่ใช่คำชม นี่ไม่ใช่เรื่องปรกติ คุณน่ะอาจจะเก่งแล้วกับตัวเอง แต่คุณน่ะ ยังไม่เก่งเรื่องสังคมนะ คุณน่ะ ควรจะพัฒนาทักษะการสื่อสาร ทักษะการเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ให้มุมมองที่ถูกต้องที่มีค่าของคุณ สามารถเข้าไปถึง สามารถเข้าไปสัมผัสถึงหัวใจของคนอื่นให้ได้มากกว่านี้
เอาจริงนะ ไม่ต้องไปคิดถึงว่าจะไปโด่งดังเป็นที่รู้จักมากมาย แค่เอาให้คนใกล้ตัว คนในครอบครับ เพื่อนร่วมงาน คู่รักของคุณ ชมคุณให้ได้ก่อนเถอะว่า พูดคุยกับคุณแล้วรู้สึกดี รู้สึกสบายใจ ก็ช่วยให้การดำเนินชีวิตดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากแล้วล่ะ
ถ้าไม่ได้เป็นโรคจิตที่มีความสุขเวลาถูกเกลียด ทุกคนก็ล้วนอยากเป็นที่รัก อยากได้รับการยอมรับ กันทั้งนั้นล่ะ ใครกันที่มันจะยังมีความสุข รู้จักไม่ร้อนใจได้ ถ้ามีปัญหาความสัมพันธ์กับคู่รัก คนใกล้ตัว เพียงแค่อดทน ตั้งอดตั้งใจฟัง เข้าอกเข้าใจกันให้มากขึ้น พูดจาให้มันดีต่อกัน เพียงแค่นี้ก็ลดความเสี่ยงการมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ไปได้อย่างมหาศาลแล้ว
ก่อนจะจากกัน ผมขอฝากบางส่วนจากในหนังสือที่ผมอยากจะขอบันทึกเอาไว้เพื่อเตือนสติตัวเอง
- ความสามารถคือเลข 1 ความสัมพันธ์ทางสังคมคือเลข 0 ที่อยู่ด้านหลัง
- ความแตกต่างที่มากที่สุดของคนที่ความฉลาดทางอารมณ์สูงกับคนที่ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถและระดับในการจัดการอารมณ์ แต่ขึ้นอยู่กับทัศนคติและแนวคิดที่มีต่อการจัดการอารมณ์
- การเอาความฉลาดทางอารมณ์สูงไปเทียบเท่ากับความไม่จริงใจความไม่ตรงไปตรงมา นี่คือความอะปยศที่ร้ายแรงที่สุด
- ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารที่แท้จริง มีความชำนาญในการสร้างบรรยากาศการสื่อสารที่เป็นมิตรและเงียบสงบ
- พฤติกรรมที่ทำให้ผู้อื่นรับไม่ได้มากที่สุดก็คือการตัดบท
- ความผิดพลาดทางอารมณ์ส่วนใหญ่มาทางพื้นฐานทางครอบครัว
- เราทุกคนรู้ว่าการบ่นไม่ได้ช่วยอะไร การบ่นเหมือนกับกลิ่นปากที่เหม็นเมื่อมันออกมาจากปากผู้อื่น แต่เรากลับไม่รู้สึกเมื่อเราออกมาจากปากของตัวเราเอง
- คนที่มองโลกในแง่ร้ายจะบ่นให้ลมฟ้าอากาศ คนที่มองโลกในแง่ดีจะรออย่างเงียบๆ ให้ลมเปลี่ยนทิศ คนที่มองโลกตามความเป็นจริงจะปรับทิศทางใบเรือไปตามลม
- การเอาชนะคนอื่นด้วยคำพูด เป็นพฤติกรรมที่ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย