ในยุคปัจเจกชนเฉกเช่นปัจจุบันนี้
ทุกคนมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น
การจะออกกฎให้ผู้คนปฏิบัติตาม
ต้องเน้นไปที่ประโยชน์สุขของคนในสังคมเป็นหลัก
มากกว่าความคิดเห็นของผู้มีอำนาจปกครอง
หรือขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา
โดยไม่รับฟังเหตุผลของผู้เรียกร้องอย่างลึกซึ้ง
สังคมจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อผู้คนในสังคมทำตามกฎระเบียบ
ถ้าผู้คนในสังคมเห็นแย้งกับกฎระเบียบที่มีอยู่
ก็คงเป็นเรื่องยากที่คนในสังคมจะปฏิบัติตาม
และเป็นไปไม่ได้ที่สังคมจะสงบเรียบร้อย
หน้าที่ของผู้ออกกฎจึงไม่ใช่การคิดว่าจะออกกฎอะไร
แต่เป็นการออกไปฟังความคิดเห็นจากคนในสังคมให้ได้มากที่สุด
แล้วเก็บเอามาคิดพิจารณาให้ตกผลึกว่า
จะออกกฎอย่างไรให้คนสังคมมีความพึงพอใจ
เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นธรรมที่สุด
รวมไปถึงการสื่อสารหลักการและเหตุผลเพื่อให้คนในสังคมเข้าใจ
ถึงจะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำให้ทุกคนในสังคมพอใจ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดไม่พัฒนา
วิธีการกำกับสังคม ให้เป็นไปในทิศทางที่เอื้อประโยชน์แก่ทุกคน
ให้ทั่วถึง ให้เท่าเทียม ให้ได้มากที่สุด
สังคมจะเดินต่อไปได้หาใช่เพราะผู้นำสังคมแค่บางคน
แต่เป็นเพราะผู้คนในสังคมที่เดินร่วมกัน
เพื่อให้สังคมได้ก้าวเดิน